บทคัดย่อหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา

ชื่อเรื่อง การสร้างและพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้ศึกษา นางไพรินทร์ ไชยสงคราม
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านโคกก่อง อำเภอสตึก
ปีที่พิมพ์ พ.ศ. 2551

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างและพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของหนังสืออ่านเพิ่มเติม
และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 จำนวน 14 คน โรงเรียนบ้านโคกก่อง อำเภอสตึก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 โดยใช้ประชากรเป็นกลุ่มตัวอย่าง ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ หนังสืออ่านเพิ่มเติม จำนวน 6 เรื่อง แบบทดสอบท้ายเรื่องหนังสืออ่านเพิ่มเติม และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก แบบประเมินหนังสืออ่านเพิ่มเติม มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และทดสอบสมมติฐาน
โดยใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการศึกษาพบว่า
1. หนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 6 เรื่อง ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น มีคุณภาพระดับดีทุกเรื่อง
2. หนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 86.07/85.71 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
3. ดัชนีประสิทธิผลของหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.5918 หมายถึงนักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้คิดเป็นร้อยละ 59.18
4. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยการอ่านหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01